เส้นทางค้าใบชาบนหลังม้าในสมัยโบราณ

ชาผู่เอ่อร์ของมณฑลยูนนานเป็นชาที่มีประวัติศาสตร์นานถึงหลายพันปี และได้ชื่อว่า เป็นชาที่มีชีวิต เพราะว่า ชาผู่เอ่อร์พันธุ์ดีมีอายุการเก็บรักษาได้นานนับร้อยๆ ปีเลยทีเดียว หรือว่าชาที่ไม่มีวันหมดอายุก็ว่าได้ ยังคงสภาพดีและมีกลิ่นหอม ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ยิ่ง

ชาผู่เอ่อร์เป็นชาที่ปลูกอยู่ในพื้นที่เฉพาะภายในมณฑลยูนนานเท่านั้น ใบชาจะมีขนาดใหญ่กว่าชาชนิดอื่น เมื่อผ่านกระบวนการหมักด้วยเทคนิคและวิธีการเฉพาะที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ กาล ทำให้ใบชาผู่เอ่อร์มีกลิ่นและรสชาติดีเยี่ยม ยิ่งเมื่อเก็บไว้เป็นระยะเวลานาน ใบชาจะเกิดปฎิกิริยาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีสรรพคุณด้านตัวยาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาผูเอ่อร์ เอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ จึงทำให้ชาผู่เอ่อร์เป็นทั้งเครื่องดื่มในชีวิตประจำวัน และเป็นของสะสมของนักดื่มชาทั้งหลาย

หนังสือประวัติบันทึกไว้ว่า ชาผู่เออร์ถูกคิดค้นขึ้นมา โดยผู้ค้าชาบนหลังม้า ซึ่งนำใบชาแห้งมาอัดเป็นแผ่นหรือก้อนเพื่อให้สะดวกต่อการขนส่ง ชาผู่เออร์จึงแตกต่างจากชาอื่นๆ

ชาอื่นๆ ยิ่งใหม่จะยิ่งหอม ยิ่งมีคุณค่า แต่ชาผู่เออร์ยิ่งเก็บนานยิ่งรสดี ยิ่งมีราคาสูง ซึ่งมีข่าวว่า ชาผู่เออร์ที่เก็บมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 อาจขายได้ราคาสูงถึงหลายพันเหรียญสหรัฐฯต่อแผ่น ทำให้ชาผู่เออร์ กลายเป็นเครื่องดื่มที่คอชาใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงความมั่งคั่งของตน และบางคนก็ซื้อเก็บไว้เป็นการลงทุนอีกด้วย จึงมีคนเปรียบเทียบว่า “ชาผู่เอ่อร์เป็นเสมือนโบราณวัตถุที่สามารถดื่มได้ ” หรือ “ทองคำที่ดื่มได้” สะท้อนว่า ชาผู่เอ่อร์เป็นชาไม่ธรรมดาจริงๆ

สิ่งที่ต่างกันกับชาอื่นๆ คือ ชาผู่เอ่อร์นอกจากมีสรรพคุณเหมือนชาชนิดอื่นๆ แล้ว เช่น ช่วยให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ป้องกันและยับยั้งมะเร็ง ขจัดพิษออกจากร่างกาย ช่วยฆ่าเชื้อโรค ลดอาการอักเสบแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยละลายไขมันในตับและไขมันในเส้นโลหิต ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื่น ป้องกันความผิดปกติของผิวหนัง ที่สำคัญ ชาผู่เอ่อร์จะไม่มีผลข้างเคียงที่บางคนดื่มชาแล้วจะนอนไม่หลับหรือท้องผูก ด้วยเหตุนี้ชาผู่เอ่อร์จึงเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมด้วยชื่อเสียงเสริมสุขภาพ และความงาม