เมืองผู๋เอ่อร์ได้รับสมญานาม “เมืองกาแฟของจีน”

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 56 China Fruit Marketing Association ได้ประกาศว่า เมืองผู๋เอ่อร์ มณฑลยูนนานเป็น “เมืองกาแฟของจีน” เมืองผู๋เอ่อร์ มีการเพาะปลูกกาแฟมากว่า 100 ปี และเริ่มเพาะปลูกเชิงอุตสาหกรรมตั้งแต่ปี 2531 ในปี 2555 เมืองผู๋เอ่อร์มีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟรวม 650,000 หมู่ (270,833 ไร่) เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว 270,000 หมู่ (112,500 ไร่) มีผลผลิต 36,500 ตัน คิดเป็นมูลค่า 900 ล้านหยวน และส่งออกกาแฟจำนวน 24,700 ตัน คิดเป็นมูลค่า 99.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันเมืองผู๋เอ่อร์มีเอกชนผู้ผลิตกาแฟ 70 ราย ในจำนวนนี้ได้รับสิทธิในการส่งออก 12 รายcoffee

วิเคราะห์ ปัจจุบันเวียดนามได้ยกระดับขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกกาแฟโรบัสต้าอันดับ 1 ของโลก แต่เมื่อรวมกับกาแฟออะราบิก้าแล้ว เวียดนามครองอันดับ 2 ของโลก รองจากบราซิล โดยในแต่ละปี ไทยนำเข้าเมล็ดกาแฟจากลาวมากที่สุด เกินกว่าร้อยละ 50 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด ในขณะที่นับวันพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตกาแฟในประเทศไทยมีแต่จะลดลง ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดว่า ใน ปี 2554/2555 ไทยจะมีเนื้อที่เพาะปลูกกาแฟ ประมาณ 302,860 ไร่ และผลผลิตประมาณ 41,600 ตัน ลดลงจากปีที่แล้ว ร้อยละ 6.21 และ 1.87 ตามลำดับ การที่พื้นที่เพาะปลูกกาแฟลดลง เนื่องจากมีการโค่นต้นกาแฟในภาคใต้เพิ่มขึ้น สาเหตุเพราะว่า เมล็ดกาแฟมีราคาตกต่ำทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ เป็นผลมาจากผลผลิตกาแฟของเวียดนามเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ปริมาณผลผลิตทั่วโลกในแต่ละปีมีมากกว่าความต้องการของตลาดโลก แต่เทรนความนิยมการบริโภคกาแฟในประเทศไทยมีทิศทางการเติบโตขึ้นอย่างต่อ เนื่อง ทำให้ประเทศไทยต้องนำเข้าเมล็ดกาแฟเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมา ประเทศไทยนำเข้าสินค้าเกษตรจากมณฑลยูนนานจำนวนไม่น้อย ในอนาคตมณฑลยูนนานอาจจะเป็นแหล่งนำเข้ากาแฟทางเลือกอีกแห่งหนึ่งของไทยก็ เป็นได้